Kampangpet
เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2556
เราได้เดินทางไป จ.กำแพงเพชร เพื่อเยิ่ยมคุณลุงเรี่ยม และครอบครัวของคุณลุง
เรื่องราวของคุณลุงที่ทำให้เราคิดจะเข้าไปช่วยเหลือนั้นเริ่มมาจากเมื่อครั้งที่เราได้ร่วมงานกับมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา)ในการออกไปช่วยผุ้ประสบอุทกภัยในกรุงเทพฯ เมื่อพศ. 2554 วันนั้นเราได้เข้าไปที่ศูนย์ผุ้พักพิงชั่วคราว วัดหลักสี่ ซึ่งที่นั่นเราได้พบพูดคุยและให้กำลังใจแก่คุณลุงและได้ถ่ายภาพคุณลุงและหลานไว้ด้วย
จนกระทั่งเมื่อเหตุการณ์น้ำท่วมนั้นได้คลี่คลายแล้วทางมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ได้ให้โอกาสเราในการจัดแสดงภาพนิทรรศการขึ้นมาในที่นี้มีภาพของคุณลุงรวมอยู่ด้วย และเมื่อจบงานแสดงนั้นในวันที่เราต้องไปเก็บภาพที่ มหาวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์ เราทั้งสองยืนเรียกแท็กซี่หลายคันแต่ไม่มีคันไหนยอมไปส่งเราเลย (เราอยู่ที่ซอย รางน้ำ ) จนมีแท็กซี่เก่าๆมาคันหนึ่งและรับเราไปส่งที่หมายคนขับอายุเยอะแล้ว ดิฉันได้บอกกับคนขับว่าให้รอรับเรากลับไปซอยรางน้ำด้วย ขณะที่เดินทางกลับนั้น คนขับก็มองเราทางกระจกมองหลังบ่อยมาก จน เห็นเราสงสัย คนขับก็พูดกับเราขึ้นมาว่า
"คุณจำผมได้ไหมครับ " ดิฉันตอบไปว่าไม่ "คุณเคยช่วยชีวิตผมและหลานๆไว้" เราก็งงกัน จนคุณลุงบอกว่าเราเคยเจอกันที่วัดหลักสี่และเล่าเรื่องที่เราได้พบกับคุณลุงครั้งนั้น คุณลุงบอกว่าวันนั้นคิดจะฆ่าตัวตายพร้อมกับหลานๆจนเมื่อเจอกับเราคุณลุงก็รุ้สึกดีใจและมีกำลังใจขึ้นมาที่เห็นเราไปพูดคุยให้กำลังใจในวันนั้น
จากนัั้นมาเราก็ได้ติดต่อกับคุณลุงและทราบข่าวล่าสุดว่าคุณลุงย้ายกลับไปแอยู่ที่กำแพงเพชรแล้วเราจึงไปเยี่ยมคุณลุงที่นั่น เราได้สอบถามรายละเอียดต่างๆเพื่อเก็บมาเป็นข้อมูลในการให้ความช่วยเหลือ คุณลุงมีลูกชาย1คน ตอนนี้ต้องโทษอยู่ ลูกสาว1คนทำงานที่กรุงเทพไม่สามารถติดต่อได้ คุรลุงต้องเลี้ยงหลานสาวทั้งหมด 4คนซึ่งเกิดจากลูกชาย 1 คน จากลูกสาว 3 คน โดยอายุไล่เรียงกันตั้งแต่ 9 ขวบ 8 ขวบ และ 7 ขวบสองคน คุณลุงมีรายได้เพียงจากการเพาะปลูกเล็กๆน้อยๆ สิ่งที่ คุณลุงเรี่ยม อยากได้นั้นไม่ใช่เงินทองอะไร แต่เป็นเรื่องการศึกษาของหลานๆในอนาคตที่คุณลุง เป็นห่วง
เมื่อเรากลับมายังกรุงเทพฯ เราได้ซื้อชุดนักเรียนและรองเท้า ให้แก่เด็กๆทั้ง 4 คน เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น ส่วนการช่วยเหลือขั้นต่ิอไปเราจะพิจารณากันต่อไป